ปัญหาน้ำเน่าเสีย
6 มิถุนายน 2567ประเภท : ข่าวประชาสัมพันธ์
ข้อมูลรูปที่เกี่ยวข้อง
โทษของผักตบชวา ผักตบชวาแพร่กระจายไปมาก จากเดิมที่เป็นพืชสวยงาม กลายเป็นพืชที่สร้างความเดือดร้อนในแม่น้ำ ลำคลอง ทำให้คนยุคนั้นสัญจรไปมาทางเรือลำบาก ถึงขั้นมีการออกกฎหมายห้ามมีผักตบชวาในครอบครอง ใครมีต้องทำลายทิ้งทันที 1.ขยายพันธุ์เร็วเกินไปอากาศในน้ำไม่ไหลเวียน ผักตบชวาเป็นวัชพืชที่ขยายพันธุ์ไวที่สุดขนิดหนึ่ง ซึ่งผักตบชวา 1 ต้นนั้น มีเมล็ดถึง 5, 000 เมล็ดที่พร้อมขยายพันธุ์ โดยใช้เวลาไม่ถึง 30 วัน เมล็ดพันธุ์ผักตบชวาก็จะเติบโตและพร้อมขยายพันธุ์ได้ถึง 1, 000 ต้นเลยทีเดียว สังเกตง่าย ๆ ถ้าเห็นที่ไหนที่มีกอผักตบชวาแม้เพียงนิดเดียวปล่อยไว้สักพักมันจะขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว และเมื่อมีจำนวนมากจนปกคลุมพื้นผิวน้ำ จะส่งผลให้น้ำขาดออกซิเจนเพราะอากาศในน้ำไม่ถ่ายเท สุดท้ายก็กลายเป็นน้ำเน่าเสีย และที่สำคัญ ผักตบชวามีความทนต่อทุกสภาวะมาก เพราะถึงแม้ว่าคลองจะแห้งจนแทบไม่มีน้ำ แต่ผักตบชวาก็สามารถยืนต้นต่อไปได้ หรือถ้าตาย พวกมันก็พร้อมที่จะฝากเมล็ดไว้ในดินแล้วรอขยายพันธุ์ต่อในส่วนหน้าฝน 2.ขวางทางไหลของน้ำทำให้เกิดน้ำท่วม ผักตบชวา เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วม เพราะเมื่อไหร่ที่ผักตบชวาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ จะทำให้การไหลของน้ำช้าลงกว่าปกติ และพวกกอผักตบที่ลอยตามน้ำก็มักจะลอยไปกองรวมกันที่ใต้สะพานและประตูระบายน้ำ ทำให้ขวางทางไหลของน้ำ และเมื่อฝนตกหนักหรือมีน้ำหลากก็จะทำให้น้ำระบายไม่ทัน จนทำให้น้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำได้ และที่สำคัญซากผักตบชวาที่ตาย ก็จะทับถมกันในคลองจนทำให้คลองตื้นเขิน ทำให้มีโอกาสเกิดน้ำท่วมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย 3.ทำลายระบบนิเวศ เป็นแหล่งเพราะพันธุ์เชื้อโรคและสัตว์มีพิษ อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของผักตบชวา คือ ทำลายระบบนิเวศ หากบริเวณไหนมีผักตบชวาขึ้นหนาแน่น จะทำให้แสงส่องลงไปในน้ำไม่ได้ เป็นผลทำให้พืชน้ำที่เป็นอาหารของสัตว์น้ำลดน้อยลง เมื่อมีอาหารน้อยลงปลาและสัตว์น้ำต่าง ๆ ก็จะขาดแหล่งอาหารจนพากันตายในที่สุด และเมื่อบริเวณนั้นไม่มีปลาและสัตว์น้ำอาศัยอยู่ ก็จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายและบรรดาสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค อาทิ แมลงวัน หนู ฯลฯ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดโรคระบาดอย่าง ไข้เลือดออก อหิวาตกโรค และโรคฉี่หนู เป็นต้น ที่สำคัญพวกกอผักตบชวายังเป็นที่หลบซ่อนของสัตว์มีพิษอีกด้วย